
วันนี้ก็เข้าสู่เดือนแห่งความรักแล้วสินะ คนไม่มีคู่เนี่ยปล่าวเปลี่ยวใจจัง
เฮ้อออ....จามีไหมสักคนมาเปลี่ยนชีวิตของฉันเธอคือใคร(เธอคือใคร-ETC)
ตอนนี้ไม่ว่ามองไปทางไหนก็เจอแต่คนที่มีความรักกันทั้งนั้นเลย เรื่องเม้าในวงสนทนาก็ไม่พ้นเรื่อง
วันวาเลนไทน์ปีนี้จะไปสวีทกับแฟนที่ไหนดี จะซื้ออารายให้แฟนดี เค้าชอบช็อกโกลแลตรสอะไรน๊า
และอีกมากมาย บลา บลา บลา...
ตอนนี้ไม่ว่ามองไปทางไหนก็เจอแต่คนที่มีความรักกันทั้งนั้นเลย เรื่องเม้าในวงสนทนาก็ไม่พ้นเรื่อง
วันวาเลนไทน์ปีนี้จะไปสวีทกับแฟนที่ไหนดี จะซื้ออารายให้แฟนดี เค้าชอบช็อกโกลแลตรสอะไรน๊า
และอีกมากมาย บลา บลา บลา...
ก่อนจะคุยกันถึงเรื่องอื่นๆ เรามารู้จักประวัติของวันวาเลนไทนกันก่อนดีกว่า
อ้างอิงมาจากเว็บ www.educatepark.com
วันวาเลนไทน์ นั้นมีมาตั้งแต่สมัยจักรวรรดิโรมัน ในกรุงโรมสมัยก่อนนั้น วันที่ 14 กุมภาพันธ์ จะเป็นวันเฉลิมฉลองของจูโน่ ซึ่งเป็นราชินีแห่งเหล่าเทพและเทพธิดาของโรมัน ชาวโรมันรู้จักเธอในนามของเทพธิดาแห่ง อิสตรีและการแต่งงาน และในวันถัดมาคือวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ก็จะเป็นวันเริ่มต้นงานเลี้ยงของ Lupercalia การดำเนินชีวิตของเด็กหนุ่มและเด็กสาวในสมัยนั้นจะถูกแยกจากกันอย่างเด็ดขาด แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีประเพณี อย่างนึง ซึ่งเด็กหนุ่มสาวยัง สืบทอดต่อกันมา คือ คืนก่อนวันเฉลิมฉลอง Lupercalia นั้นชื่อของเด็กสาวทุกคนจะถูกเขียนลงในเศษกระดาษเล็ก ๆ และจะใส่เอาไว้ในเหยือก เด็กหนุ่มแต่ละคนจะดึงชื่อของเด็กสาวออกจากเหยือก แล้วหลังจากนั้นก็จะจับคู่กันในงานเฉลิมฉลอง บางครั้งการจับคู่นี้ ท้ายที่สุดก็จะจบลงด้วยการ ที่เด็กหนุ่มและเด็กสาวทั้งสองนั้นได้ตกหลุมรักกันและแต่งงานกันในที่สุด
ภายใต้การปกครองของจักรพรรดิคลอดิอุสที่สอง (Claudius II) นั้น กรุงโรมได้เกิดสงครามหลายครั้ง และคลอดิอุสเองก็ประสบกับปัญหาในการที่จะหาทหารจำนวนมากมายมหาศาลมาเข้าร่วมในศึกสงคราม และเขาเชื่อว่าเหตุผลสำคัญก็คือ ผู้ชายโรมันหลายคนไม่ต้องการจากครอบครัวและคนอันเป็นที่รักไป และด้วยเหตุผลนี้เอง ทำให้จักรพรรดิคลอดิอุสประกาศให้ยกเลิกงานแต่งงานและงานหมั้นทั้งหมดในกรุงโรม ถึงกระนั้นก็ตาม ยังมีนักบุญผู้ใจดีคนหนึ่งซึ่งชื่อว่า ท่านนักบุญ " วาเลนไทน์ " ท่านเป็นพระที่กรุงโรมในสมัยของจักรพรรดิคลอดิอุสที่สองท่าน นักบุญ วาเลนไทน์ และนักบุญ มาริอุส ได้จัดตั้งกลุ่มองค์กรเล็กๆ เพื่อช่วยเหลือชาวคริสเตียนที่ตกทุกข์ได้ยากเหล่านี้ และได้จัดให้มีการแต่งงานของคู่รักอย่างลับๆด้วย
และจากการกระทำเหล่านี้เอง ทำให้ นักบุญ วาเลนไทน์ ถูกจับและถูกตัดสินประหารโดยการตัดศรีษะ ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ประมาณปีคริสต์ศักราชที่ 270 ซึ่งถือเป็นวันที่ท่านได้ทนทุกข์ทรมานและเสียสละเพื่อเพื่อนมนุษย์
ในความคิดของฉัน วันวาเลนไทน์เป็นเพียงวันวันนึง ไม่ได้พิเศษหรือแตกต่างจากวันอื่น เรายังคง
ต้องกิน นอน เดิน นั่ง ทำกิจวัตรประจำวันตามปกติ แต่คงจะเป็นเพราะเรารับวัฒนธรรมของ
ชาติตะวันตกมากเกินไปเลยให้ความสำคัญกันอย่างผิดๆ จนกลายเป็นค่านิยมว่าวันนี้เป็นวันพิเศษ
ผู้ชายต้องมอบดอกกุหลาบให้ผู้หญิง ผู้หญิงต้องให้ช็อกโกลแลตหรือมากกว่านั้นคือการเสียความบริสุทธิ์
T^T สิ่งที่เราควรจะมอบให้กันคือความรักความปรารถนาดีโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนถึงจะเป็นความรักที่แท้จริง
.....คนเราถ้าจะรักกันไม่ใช่รักกันแค่วันนี้วันเดียว ต้องรักกันในทุกๆวันตลอดไป....
เห็นด้วยกับเจ้าของบล็อกนะคะ
ตอบลบใกล้จะถึงวันวาเลนไทน์แล้ว
ส่วนใหญ่คนก็พูดถึงว่า
"วาเลนไทน์นี้จะซื้ออะไรให้แฟนดีนะ หรือไม่ก็จะเซอร์ไพร์อะไรดี"
ก็จริงอยู่นะคะว่าวันวาเลนไทน์เป็นวันแห่งความรัก
แต่สำหรับตัวเองก็คิดว่าเหมือนกับวันอื่นๆ
เห็นด้วยกับคำพูดประโยคหนึ่งที่เจ้าของบล็อกได้บอกไว้ว่า
คนเราจะรักกันไม่ใช่วันนี้วันเดียว ต้องรักกันในทุกๆวันตลอดไป
ก็อยากจะให้ทุกคนใส่ใจในทุกๆวัน ที่ได้อยู่ด้วยกัน
แสดงความรักและความเอาใจใส่ที่ดีต่อกัน
^^
ขอให้เจ้าของบล็อกมีคนรู้ใจเร็วๆนะคะ อิอิ
น้ำตาลจ้า(เลขที่ 18)